กางเต้นท์เกาะมุก – เกาะกระดาน 7 วัน

คนที่อยากไปเที่ยวเกาะ ลงเล่นน้ำทุกวัน นอนกางเต้นท์ริมหาด ลองไปเที่ยวสองเกาะนี้ครับ ผมใช้เวลาบนเกาะนั้น 1 สัปดาห์เลย และลดค่าใช้จ่ายเรื่องที่พักไปเลย

1. เดินทางจากในเมืองไปท่าเรือกวนตุ้งกู (อำเภอกันตัง) อันนี้ลำบากหน่อย เพราะไม่มีรถประจำทาง แต่ปกติจะมีรถตู้ของบริษัททัวร์วิ่งทางนั้นประจำ คือ ในเมืองตรัง – ท่าเรือ – สนามบิน อาจลองติดต่อทัวร์ไปดูคับ ผมเป็นคนเเถวนี้ เลยให้ญาติไปส่งที่ท่าเรือเลย ค่าเรือโดยสารไปเกาะมุกราคา 50 บาท บางคนบอกว่า 30 บาท ก็ไม่แน่ใจ สงสัยเพราะเป็นคนเกาะนั้น เลยได้รับสิทธิพิเศษ เรือออก 11.30 น. มี 2 ลำ ออกไล่เลี่ยกันเลย ใครพลาดหรือถ้าไปกันหลายๆ คน เหมาเรือหางยาวไปเลยดีกว่า ราคาราว 1,200 หรือจะไปขอเเชร์กับกลุ่มอื่นๆ จ่าย 100-200 ก็ได้คับ


เรือจะเเล่นลัดไปทางหาดเจ้าไหม ก็จะเห็นเกาะสวยๆ เมื่อไปถึงเกาะมุก ช่วงเที่ยง จะเห็นน้ำเขียว ใสมากๆ เห็นปลาและพื้นทรายตั้งแต่ยังอยู่บนเรือ เดินลงไปจะเจอกับสะพานใหม่ที่เพิ่งเสร็จปลายปี 2566 นี้ มีรถซาเล้งหรือมอเตอร์ไซด์พ่วงให้บริการ ไปไหนก็ได้ จ่ายในราคาเท่ากันคือ คนละ 50 บาท .. เคยได้ยินพี่วินบ่นน้อยใจเหมือนกัน แบบว่า วันนี้ทำไมคิวผมได้เเต่ลูกค้าครั้งละคน คนอื่นได้ 2-3 คน (คือแกได้ครั้งละ 50 คนอื่นได้ 150) แต่ก็ไม่ต้องซีเรียสคับ ผมสอบถาม ทราบมาว่า พี่เขาได้วันละราว 600-700 บาท ซึ่งก็โอเคอยู่

2. เกาะมุกมีมุสลิมราว 95% ที่เหลือเป็นพุทธ แต่อย่าเพิ่งจินตนาการว่าเขาเคร่งนะครับ เขาใช้ชีวิตธรรมดา จำนวนมากเลยก็ไม่คลุมผม ผู้ชายก็ไม่ค่อยไปละหมาด ส่วนหนึ่งเพราะทำงานเรือ หาปลา/รับทัวร์ มีสำนักสงฆ์อยู่หนึ่งแห่ง ใกล้กับอนามัย ทราบมาว่าเมื่อก่อนเคยอยู่เเถวรีสอร์ทศิวาลัย ซึ่งเป็นหาดที่วิวสวยมาก (และค่าที่พักก็สูงมาก ไม่ได้พักก็เดินไปชมหาด เล่นนำ้ได้ครับ) เขามาจัดที่ให้อยู่ใหม่ มีอนามัย วัด โรงเรียนเด็กก่อนเกณฑ์ ซึ่งทั้งหมดรวมทั้งค่าไฟ รับผิดชอบโดยรีสอร์ท ผมมีโอกาสไปที่นั่น เจอพระพอดี เเละขอนอนกางเต้นท์ที่วัดก่อน 2 คืน


ใช้เวลา 2 วัน เดินดูชุมชนเเถวท่าเรือ ชุมชนอ่าวขาม มีธนาคารปูม้า วิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชน ฯลฯ วันเเรกเลยได้เจอพิธีฉลองเรือใหม่ เรียกว่า ดูรี่ (มาจากภาษามลายูว่า Kenduri) เป็นการทำบุญเนื่องในวันออกเรือใหม่ หรือเอาเรือขึ้นมาซ่อมแซม วันนั้นคนในครอบครัวจะเอาอาหารไปนั่งกินบนเรือ พี่ๆ เขาชวนผมด้วย และบอกว่า เป็นการขอให้แม่ย่านางอวยพรให้หากินสะดวก ร่ำรวย ทราบมาว่า เรือไม้ที่ต่อใหม่ราคา 100,000 บาท และซื้อเครื่องยนต์อีกราว 50,000 บาท ปกติก็เอาไปทำทัวร์ รับส่งนักท่องเที่ยวตามเกาะ ส่วนอาหารบนเกาะมุกก็ไม่เเพง มากกว่าราคาปกตินิดหน่อย ผัดกะเพราะประมาณ 70-100 บาท น้ำดื่มลิตรครึ่งขวดละ 20 บาท ซึ่งราคาบนเกาะกระดานจะเเพงเป็นสองเท่าของเกาะมุกเลย


ทางเดินก็สะดวก ปีที่ผ่านมามีการทำถนนตัวหนอน รถซาเล้งวิ่งได้ คนเดินได้ ที่ต้องระวังหน่อยคือ หมาที่มีเยอะมาก เพิ่งมีการทำหมันหมาแมว แต่หลายตัวก็จับไม่ได้ กลายเป็นว่า เป็นเกาะมุสลิมที่มีหมาเยอะ เเต่เขาก็ใจดี แทบไม่เห็นหมาผอมเลย ป้าที่ร้านขายของชำก็ให้ข้าวหมากิน และป้าก็เลี้ยงแมวในบ้าน 2 ตัว บอกว่าร้านค้าแบบนี้ มีแมวไว้ หนูจะได้ไม่มารบกวน .. เออ ผมก็ลืมหน้าที่ของแมวไปเลย นึกถึงแต่ว่าเขาเลี้ยงเพราะน่ารัก อิอิ


3. ที่ที่พอจะกางเต้นท์ได้และปลอดภัยคือ หาดชาลี ผมกางเต้นท์ที่นี่อีก 2 คืน เป็นหาดไว้ดูอาทิตย์ตก ฝรั่งเยอะมากๆ ช่วงสองสามเดือนมานี้มีร้านค้าราว 15 ร้าน ไปขายอาหาร เครื่องดื่น ไอศกรีม คนมักจะไปอาบน้ำและนั่งดูอาทิตย์ตก กลับกันหมดก็ราว 1-2 ทุ่ม ตรงนั้นมีบาร์หม่อง กับ ร้านอาหาร/บังกโลโกยาวด้วย วิวดี เช่าเรือคายักพายไปเที่ยวถ้ำมรกตได้ ชม.ละ 100 บาท



ที่ว่าปลอดภัย เพราะดังที่ทราบกันครับ ว่าคนติดยาเยอะทุกที่เเหละ ดังนั้นการไปนอนอยู่คนเดียวในที่ต่างถิ่นอาจต้องระวัง เขาอาจไม่ปล้นหรือทำร้าย แต่ต้องระวังการขโมย ผมถามเรื่องนี้กับคนที่อยู่แถววัด พี่เเกตอบว่า “น้องดูประตูห้องน้ำวัดสิ ยังหายเลย อิอิ” การนอนที่หาดชาลีปลอดภัยเพราะเป็นชายหาดปิด ที่มีทางเข้าทางเดียว (นอกจากจะมาทางเรือ ซึ่งต้องลงทุนเหนื่อยหน่อย) และมีพี่เขาเดินสำรวจตอนกลางคืน เพราะมีบาร์ ร้านอาหาร และซุ้มขายของของชาวบ้านด้วย ผมนอนที่นั่น 2 คืนก็หลับสบายมาก ออ..หมาก็เยอะนะครับ แต่หมาที่นี่ดูใจดีจุง ไม่มายุ่งกับเราเลย ห้องน้ำก็ไปใช้ที่บาร์หรือร้านอาหารใกล้ๆ นั้นคับ เพราะไม่เก็บค่าธรรมเนียมอะไร เราอาจช่วยอุดหนุนอาหารเขาหน่อยคับ 

คนที่อยากประหยัด จะเช่าเรือคายักไปถ้ำมรกต .. พายเหนื่อยเลยคับ เที่ยวละราว 15-20 นาทีได้ และเเดดก็มักจะร้อนด้วย คนกลัวตัวดำนี้ต้องหาเครื่องป้องกันมาให้ดีเลย ถุงกันน้ำเขาก็มีให้ยืมฟรีนะครับ ที่สำคัญมากๆ คือ “ห้ามลืมไฟฉายเด็ดขาด” ผมคิดไปว่าจะเอาไฟโทรศัพท์ส่อง เอาเข้าจริงแสงสว่างน้อยเกินไป รู้สึกขาดทุนเลยที่พายไปเหนื่อยๆ และมองถ้ำข้างในไม่ชัด ค่อยไปใหม่อีกที .. ตอนนั้นผมไปคนเดียวด้วย เพิ่งมาทราบทีหลังว่า ควรไปกันหลายๆ คน เข้ากันไปเป็นกลุ่ม เพราะมันมืด เผื่อมีไรจะได้ช่วยเหลือกัน 

4. การเดินทางไปเกาะกระดาน .. ติดต่อบริษัททัวร์ที่เกาะมุกเลยครับ เพราะราคาก็เท่ากัน คือ 300 บาท เป็นเรือ speed boat ของปากบารา ออกราวเที่ยงตรง จริงๆ ผู้โดยสาร 95% เป็นฝรั่งครับ คิดว่าเพราะคนไทยเขามักมากับทัวร์แบบ One-Day Trip และมากันเป็นกลุ่มๆ เหมาเรือกันมาอยู่แล้ว การเดินทางแบบที่ผมว่าจึงแทบไม่เจอคนไทยคับ ไปถึงเกาะกระดานก็ซื้อตั๋ว/จ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อเข้าอุทยาน คนไทยราคา 40 บาท อยู่ได้ 5 วัน จากนั้นก็เดินเลี้ยวซ้ายไปสำนักงาน หาที่กางเต้นท์ครับ ส่วนคนมีตังค์จองโรงเเรมมาก็เลี้ยวขวา แต่ไม่มีประตูกั้นนะครับ ใครจะเดินไปเที่ยว ไปเล่นน้ำโซนไหนก็ได้ แค่อาจจะมีคนเดินแบบนี้น้อย เพราะไกล และหน้าที่พักของตัวเองก็สวยพออยู่แล้ว

ในอุทยานเหมาะแก่การกางเต้นท์จริงๆ จ่ายวันละ 30 บาท หากเอาเต้นท์ไปเอง หรือถ้าไปใช้เต้นท์ที่นั่น น่าจะคนละ 150 บาท (จำไม่ได้ อิอิ) ห่างจากชายหาดราว 50 เมตร ดินลงไปเล่นน้ำได้ทุกเมื่อ มีห้องสำหรับทานอาหารหรือนั่งทำงานเพื่อชาร์ตมือถือ ที่นี่จะปล่อยไฟฟ้ามาช่วง 18.00 – 24.00 และเปิดอีกทีช่วง 06.00-08.00 อันนี้น่าจะเผื่อให้เจ้าหน้าที่ได้หุงข้าวเช้า เป็นการใช้ไฟปั่นซึ่งเก็บพลังงานช่วงกลางวันผ่านโซล่าเซลล์ ห้องน้ำก็สะดวกมาก ปิดไม่ให้กางเต้นท์ช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งประกาศเป็นช่วงมรสุม ออ .. บ้านพักเจ้าหน้าที่ก็อยู่หลังจุดกางเต้นท์เลย จึงปลอดภัยมากๆ และเกาะกระดานมีแต่อุทยานกับรีสอร์ท ไม่มีชาวบ้าน จึงไม่มีการพลุกพล่านคับ

5. เรื่องอาหารนี่เเหละ ที่ลำบากที่สุด เพราะราคามากกว่าปกติราว 2 เท่า อาหารมื้อละราว 200-300 บาท หรือถ้าจะประหยัดจริงๆ อาจพอหามื้อละ 100 ได้เช่นสั่งข้าวไข่เจียว อาจลองเดินไปทางขวาของอุทยาน จะพบอ่าวเนียงรีสอร์ท ตรงนั้นก็อาหารไม่แพง ป้าๆ ลุงๆ มาทำงานที่นี่มาจากอำเภอนาโยง ใจดี ไปสั่งเมนูง่ายๆ เเบบไม่เป็นทางการเอาได้ครับ ออ .. แต่เดินได้สะดวกเฉพาะตอนน้ำลงนะ ถ้าน้ำขึ้นมากต้องเดินด้านใน ลัดป่าเอา ป้าบอกว่า ปกติก็มีแต่ฝรั่งแหละที่เดินลัดป่ามา สงสัยคนไทยกลัวงู อิอิ


6. ผมเองกินเเค่วันละ 2 มื้อ คือสายๆ กับช่วงเย็น ประหยัดไปได้เยอะคับ ช่วงกลางวันก็นอนเล่นในเต้นท์ เดินลงไปว่ายน้ำ เดินเล่น/นั่งเล่นริมหาด เอาจริงๆ 3 วันนั้นรู้สึกอิ่มกับทะเลมาก แบบไม่กระหายจะลงเล่นน้ำแบบที่มาวันเเรกๆ แล้ว แต่ก็ยังเดินได้ไม่รอบทุกส่วน คาดว่าจะให้ครบจริงๆ ควรมีเวลาที่ละ 4-5 วัน ครับ


7. ขากลับ ก็จองตั๋วเรือและรถตู้ผ่านทางโทรศัพท์ มีป้ายทัวร์อยู่หน้าหาดเลยครับ ราคาก็พอๆ กัน ผมจ่าย 450 บาท (น่าจะเป็นค่าเรือจากเกาะกระดาน-เกาะมุก 300 และจากเกาะมุก-ตัวเมืองตรัง 150) เมื่อขึ้นฝั่งที่ควรตุ้งกู ก็มีรถตู้มารอรับเลย เขาจะพาไปลงเเถวสถานีรถไฟคับ หรือใครจะไปสนามบินเลยก็ได้ (มีจ่ายเพิ่ม รวมทั้งหมดราว 600)

สรุปค่าใช้จ่าย 6 คืน 7 วัน อยู่ที่ 3,000 บาท เป็นค่าเดินทางราว 1,000 และค่าอาหาร 2,000 จะดีมากถ้าได้ซื้ออาหาร/ขนมตุนไปเยอะๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากครับ  

ดูคลิปสั้นๆ ใน YouTube จากลิ้งค์นี้คับ

เขียนโดย

เจษฎา บัวบาล

20 ธันวาคม 2566

Comments