ฟังเรื่องคนไร้บ้านใน พูดมากpodcast เห็นมุมต่างๆ ของชีวิตในกรุงเทพมากขึ้นเลย เช่น หลายคนไม่มีบัตรประชาชน (หาย) เเละไม่รู้จะไปแจ้งที่ไหน เวลามีนายจ้างมารับไปทำงาน ก็มักถูกโกงอีก เพราะรู้ว่าคนพวกนี้ทำอะไรเขาไม่ได้ มีอุปกรณ์ทำงานอยู่บ้างก็ถูกเทศกิจยึดไป เพราะไปนอนในที่ที่ห้ามนอน สุดท้ายการอยู่เฉยๆ ขอทานไปเรื่อยๆ ดีกว่าการไปให้คนอื่นหลอก .. คือเขาผ่านอะไรมาเยอะ ไม่ใช่เเค่ขี้เกียจแล้วมานอนข้างถนน
นึกถึงอินโด โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีประชากรเยอะ เขายังนิยมมีเเม่บ้าน คือไม่จำเป็นต้องรวยมาก อาจเป็นเเค่คนชั้นกลางก็ได้ เพราะจ่ายค่าจ้างให้สักเดือนละ 2000 บาทก็ได้ .. ใช่ครับ เงินมันน้อย คงไม่พอหรอก เเต่ที่พอเพราะอยู่ฟรี กินฟรีกับเจ้าบ้านไง และมีคนะร้อมจะทำงานเเม่บ้านเยอะ
ปี 2015-2016 ผมเป็นพระอยู่จาการ์ต้า/บันดุง ไปสวดตามบ้านคนรวยพวกนี้บ่อย เเละเกือบ 100% มีเเม่บ้าน ไม่เชิงว่าเป็นคนรับใช้ เพราะเขาได้เงินเดือน เเม้จะน้อยมาก บางทีอยู่กันเป็นครอบครัวเลย คือเเค่สละ 1 ห้องในบ้านให้พวกเขาอยู่ ผู้หญิงทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว ผู้ชายล้างรถ ขับรถไปส่งเขาทำงาน ส่งลูกเขาไป รร. ถ้าเเม่บ้านมีลูกด้วย ก็เอามาอยู่ด้วย ช่วยทำงานเล็กๆ น้อยๆ หลังจากกลับจาก รร.รัฐ(ค่าเทอมถูก)
ครั้งหนึ่งได้ไปนอนบ้านนักธุรกิจ มีโรงงานทำอาหารสัตว์และซื้อข้าวโพดจากชาวบ้าน (เขาบอกว่าเป็นเครือเดียวกับ CP) บ้านหลังใหญ่นั้น มีคนทำงานเป็นเเม่บ้านราว 5 คน เเละนับถือศาสนาอื่นด้วยนะ เมื่อพระไปถึง เขาก็เข้ามาขอจับมือกล่าวซาลามแบบมุสลิมทั่วไป เอาน้ำมาให้ เเล้วสักพักไปหั่นแอปเปิลกับปอกส้มมาให้ เจ้าบ้านที่เป็นคนพุทธ(มหายาน) ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมเองก็ลุ้นว่าหลวงพ่อ วส. ท่านจะกินไหม (คือผมอยากกิน) สุดท้ายท่าน วส.ก็บอกเขาไปว่า พระเถรวาทกินอาหารตอนเย็นไม่ได้ เขาก็ขอโทษเเล้วเอาไปเก็บ
ออ .. ที่จะเล่าคือ คนพวกนี้ก็ช่วยจัดเตรียมที่นอนให้พวกเรา(ที่เป็นพระ) พวกเขาสลับกันกลับบ้านซึ่งจำนวนมากมาจากชวากลาง เเละเท่าที่ทราบ เงินเดือนก็อยู่ที่ 2000 บาท วัดพุทธเองก็ให้ในเรตเดียวกัน คือวัดพุทธจะจ้างคนไปอยู่เฝ้า ทำความสะอาด (เพราะมักไม่มีพระ) เเละอาจทำอาหารให้พระบ้างถ้าพระมาพัก บางวัดให้เเค่ราว 1500 บาทต่อเดือน
ปี 2020-23 ผมอยู่ในเมืองยอกยา อันนี้ก็คล้ายกัน หอพักก็มีเเม่บ้านซึ่งจ้างมาต่างหากอยู่ประจำเลย ผัวของเเม่บ้านอาจถูกจ้างให้ทำก่อสร้างด้วย ถ้าทำงานทั้งวัน เช่นก่ออิฐ ผสมปูน ก็จะได้ 250 บาทต่อวัน เเต่งานไม่ได้มีตลอด เมื่อเสร็จก็เลิกจ้าง .. หอพักหนึ่งเป็นบ้านของเขาเลย เเละรับเฉพาะญาติสนิท(ที่เขาตักเตือนได้ หรือ นศ. ป โท/เอก เพราะไม่อยากให้ส่งเสียงดัง) เป็นบ้านคนรวย ยายเป็นเมียนายทหารยศสูง (ซึ่งตายไปแล้ว) ผมเรียกครอบครัวนี้ว่า อยู่ในประเภท Priyayi ซึ่งหมายถึงพวกชนชั้นสูงชวา ที่ไม่เคร่งศาสนา ครอบครัวนี้ไม่เคยไปโบสถ์เลย จ้างคนทำงาน 2 คน
คนเเรกเป็นยาย อายุราว 60 มาจากต่างจังหวัด มาตกอับที่ยอกยา เขาเลยชวนมาอยู่บ้าน ให้ช่วยทำความสะอาด เเละยายก็อยู่นั่นมาหลายปีเเล้ว อันนี้ผมไม่ได้ถามเงินเดือน ยายมีหน้าที่ไปจ่ายตลาด กวาดถู ขายอาหารตามสั่งอยู่ข้างล่าง ถ้าคนในหออยากกินอะไรก็สั่งยาย ไม่แน่ใจว่ากำไรจากการขายนั้นเป็นของยายไหม เเต่เจ้าของหอบอกว่า ช่วยซื้อของยายเเกบ้างนะ ช่วยเหลือแก
ยายได้พาหลานมาอยู่อีก 2 คน ซึ่งเรียนมัธยมมาช่วยงานด้วย พวกเขานอนกันในห้องเเคบๆ กั้นด้วยไม่ต่อจากครัวเอา คิดว่าเด็กพวกนี้คงไม่ได้เงินเดือนหรอก เหมือนมาขออยู่เพื่อเรียนหนังสือเเถวนั้น เเล้วทำงานบ้านเเลกข้าวมากกว่า
คนที่สอง เป็นผู้หญิงอายุราว 40 ปี ถูกจ้างมาวาดลายบาติก เงินเดือนราว 2500 บาท มาเช้า-กลับเย็น ที่จริงฝีมือวาดบาติกน่าจะได้เงินมากกว่านี้ เเต่เพราะเขาจ้างแบบเป็นเเรงงานทั่วไปเลย คุยกับเเกแล้วทราบว่า 1 ผืนใช้เวลาราว 1 อาทิตย์ สรุปคือ ได้ 4 ผืน/เดือน เจ้าของบ้านเอาผ้าไปขายผืนละ 1700 บาท (รวม 6800) เเต่ก็นั่นเเหละ เจ้าของบ้านบอกว่า มันก็ขายยาก บางทีเดือนหนึ่งขายได้ชิ้นเดียว คือเขาจ้างคนมาทำผ้าบาติก น่าจะเพราะอยากโชว์ความเป็นคนชั้นสูงมากกว่า
เงินเดือนจะได้มากก็ช่วงวันหยุดยาวของอิสลาม ช่วงนั้นคนจะกลับบ้าน ขาดเเคลนเเม่บ้านเลย ถ้าใครอยู่ก็ได้โบนัสพิเศษ เพื่อนชาวพุทธจากชวามักจะมารับงานพิเศษช่วงนี้ด้วย เช่น 10 วันได้ 2000 กรณีที่ไม่มีตังค์ ไปเบิกค่ารถเมื่อไปถึงบ้านเขาก็ได้ ชีวิต/เครือข่ายเเม่บ้านแบบนี้ก็น่าติดตามคับ
เเล้วมันเกี่ยวกับคนไร้บ้านยังไง? ผมสันนิษฐานว่า การมีอาชีพแม่บ้าน หรือวัฒนธรรมของการจ้างสาวใช้แบบนี้ คงช่วยลดจำนวนคนไร้บ้านในอินโดลงคับ เพราะถ้าเขามาเเสวงโชคในเมืองใหญ่เเละตกงาน ไม่มีอาชีพแม่บ้านที่เปิดรับคนจำนวนมากนี้ คนไร้บ้านในอินโดคงเยอะกว่านี้มากคับ
เจษฎา บัวบาล
7 พฤศจิกายน 2566
Comments
Post a Comment