รวมบทความ "พุทธศาสนาไทยในอินโดนีเซีย" ของ เจษฎา บัวบาล

รวมบทความ "พุทธศาสนาไทยในอินโดนีเซีย" ซึ่งเป็นบทต่างๆ ของวิทยานิพนธ์ ป. โท สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา (ม.วลัยลักษณ์) ของ เจษฎา บัวบาล (2017) องค์กรพุทธในประเทศมุสลิมแบบอินโดนีเซียมีมากกว่า 15 องค์กร ธรรมยุติกนิกายเป็นหนึ่งในนั้น และถูกเน้นในวิทยานิพนธ์เล่มนี้ เราจะเห็นภาพของความสัมพันธ์ระหว่างศาสนา / องค์กรภายในศาสนา การเมือง/นโยบายที่ส่งผลกับศาสนา ตลอดจนการตีความคำสอนใหม่ๆ


ความพิเศษของธรรมทูตในอินโดคือ พระไทยใช้ชีวิตและรับการสนับสนุนหลักจากคนท้องถิ่นเลย ในขณะที่ยุโรป อเมริกา ฯลฯ วัดไทยมักตกอยู่ในมือคนไทย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวของพระเอง ที่จะปรับศาสนาให้เข้ากับคนในประเทศนั้นๆ อินโดจึงเป็นกรณีหนึ่งที่น่าเรียนรู้ บทความเหล่านี้ตีพิมพ์มาเรื่อยๆ ตั้งแต่ 2017-2021 โดยเอาข้อมูลส่วนต่างๆ ของวิทยานิพนธ์มาอธิบายใหม่ บ้างก็ใช้แนวคิดใหม่เลย แต่ละชิ้นมีเนื้อหาที่จบในตัวเอง


1. การฟื้นฟูพุทธศาสนาเถรวาทในอินโดนีเซีย ผ่านการเคลื่อนย้ายแบบข้ามพรมแดน, วารสารอาศรมวัฒนธรรม วลัยลักษณ์, 18(2), 21-38. 2017 https://bit.ly/3jEvfRC

เกริ่นนำถึงพัฒนาการของพุทธศาสนาในอินโดนีเซียตั้งแต่ยุคอาณานิคน การศึกษาพุทธศาสนาผ่านสมาคม Theosophical Society และความสนใจที่จะทำศาสนาให้ทันสมัยโดยคนจีน จนนำไปสู่การนิมนต์พระเถรวาทจากศรีลังกา (1934)


2. Thai Buddhism for Indonesian Elites. MBU Journal of Social Science, 1(2), 132-147. 2018 https://bit.ly/3dE9b5W

พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพระธรรมทูตไทยกับรัฐบาลอินโดนีเซียช่วงเผด็จการซูฮาร์โต้ ข้อเสนอของงานนี้คือ พุทธแบบไทยเติบโตขึ้นมาได้ช่วงปี 1980 เพราะจับมือกับเผด็จการ ที่ออกระเบียบมาควบคุมศาสนา ในขณะที่องค์กรพุทธท้องถิ่น (เช่น SAGIN และ STI) มีความขัดแย้งกับนโยบายของรัฐ พระไทยเลือกที่จะทำตามและเข้าร่วมกับรัฐ เป็นเหตุให้พระไทยมีเครือข่ายกับผู้มีอำนาจ และยังคงมีบทบาทสำคัญในนามสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งอินโดนีเซีย (WALUBI)


3. Belonging without Conversion: The Establishment of Buddhism in Muslim Village. Walailak Journal of Social Science, 14(2), 1-12. (2021) https://bit.ly/2UmJyzT

พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างศาสนา ที่พระไทยสร้างขึ้นกับชาวคริสต์และมุสลิม มีการตีความคำสอนให้เป็นศีลธรรมทางโลก (secular) มากขึ้นโดยไม่ต้องสะท้อนอัตลักษณ์ทางศาสนา งานชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า การแปลงศาสนาคนไม่ได้จำเป็นเท่ากับการสร้างเครือข่ายเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนงานศาสนา ในขณะที่การทำให้พิธีกรรมดูเป็นกิจกรรมทางโลกมากขึ้น (เช่น สมาธิ) ก็จะดึงดูดคนต่างศาสนาให้เข้าร่วมได้โดยไม่ต้องลำบากใจกับศาสนาเดิมที่ตนนับถืออยู่


4. Thai Monks' Adaptability in Indonesian Chinese Community. Journal of Social Sciences Mahamakut Buddhist University, 4(1), 24-38. (2021) https://bit.ly/3wfgw2r

พูดถึงการสร้างเครือข่ายกับคนจีน โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่ต้องหาวิธีสร้างวัด ตัวอย่างหนึ่งคือ การให้นักธุรกิจบริจาคเงินสร้างศาลาที่พักผู้ปฏิบัติธรรมบทภูเขา และตกลงกันว่า ทั้งวัดและผู้บริจาคจะถือกุญแจคนละดอก หากช่วงไหนไม่มีคนมาปฏิบัติธรรม ผู้บริจาคก็มาใช้เป็นบ้านพักตากอากาศของตัวเองได้เลย เหมือนมีบ้านอีกหลัง แต่หากมีโครงการปฏิบัติธรรม วัดก็จะขอให้ผู้มาปฏิบัติได้เข้าพัก


5. Transforming Rituals in Thai/Chinese Theravada of Indonesia. Thammasat Review, 24(1), 300-316. 2021 https://bit.ly/3qJHSwm

กล่าวถึงการปรับพิธีกรรมในบริบทแบบมหายาน/จีน ที่พระไทยพยายามจะอ้าง/รักษาความเป็นเถรวาทไว้ ในเรื่องนี้จึงมีการต่อรองกับหมอผี เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ และช่วยเปลี่ยนเป้าหมายของพิธีกรรม เช่น ปล่อยปลา ที่อาจพัฒนามาจากการฝึกความเมตตาต่อสัตว์ (ซึ่งต่อมาก็ทำเพื่อโชคลาภ พ้นโรคภัย) แต่ พิธีกรรมนี้ยังพัฒนาไปถึงการปล่อยปลาเพื่ออุทิศให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไป โดยบทบาทของพระก็ยังถูกเน้นเช่นเดิม ในฐานะเนื้อนาบุญหรือสื่อกลางในการอุทิศบุญ


6. Invented Identity of Thai Monks in Indonesia. Manusya: Journal of Humanities, 23(2), 170-187.(2020). https://bit.ly/3dGPb2v

อีกบทความที่บรรยายให้เห็นว่า ในเมื่อต้องต่อรองกับความเป็นมหายาน และนักวิชาการชาวพุทธอินโด นักแสดงธรรมที่้เก่งซึ่งถูกฝึกมาจากองค์กร (SAGIN) พระไทยต้องต่อรองด้วยการนิยามตนเป็นพระสายป่า หันมาเน้นสมาธิ และเรื่องการละกิเลส มีการถ่ายทอดเรื่องราวศิษย์หลวงปู่มั่น และนิมนต์พระป่าจากไทยไปแสดงธรรม ซึ่งปรากฎการณ์นี้จะถูกอธิบายผ่านการทำพระป่าให้เป็นสินค้า

Comments